แนะนํา

        โครงการที่เกี่ยวข้อง

          “เริ่มพูด”

          คำที่ต้องการค้นหา

          กำลังประมวลผล ...

          “ไม่ได้รับข้อมูลเสียง”

          ลองใหม่อีกครั้งนะคะ

            {{submenu_experience-ss_col_1}}
            {{submenu_experience-ss_col_2}}
            {{submenu_experience-ss_col_3}}

          ลงชื่อเข้าใช้งาน

          ต้องการข้อเสนอตรงใจ

          กรุณาอัพเดทโปรไฟล์ของคุณ
          เพื่อให้นำเสนอข้อมูลโครงการได้ตรงใจคุณยิ่งขึ้น

          คำแนะนำการซื้ออสังหาริมทรัพย์

          เจาะลึกทุกรายละเอียดการลงทุนอสังหาฯ อย่างเชี่ยวชาญ ได้ที่นี่

          ลงทุนอสังหาฯ

          ลงทุนระยะสั้น VS ลงทุนระยะยาว
          การลงทุนอสังหาฯ แบบไหนปลอดภัยสุด?

          การลงทุนอสังหาฯ แบบลงทุนระยะสั้น VS ลงทุนระยะยาว แบบไหนปลอดภัยสุด?

          สืบเนื่องจากทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เว้นแม้กระทั่งการลงทุนในทรัพย์สินที่มีพื้นฐานทางด้านการลงทุนมั่นคงอย่างอสังหาฯ ดังนั้นเหล่านักลงทุนไม่ว่าจะมือใหม่หรือมืออาชีพ ย่อมต้องทำการศึกษารูปแบบการลงทุนอสังหาฯอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างหรือปัจจัยความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

          การลงทุนอสังหาฯ ระยะสั้น VS ระยะยาว แตกต่างกันอย่างไร

          สำหรับนักลงทุนอสังหาฯ ที่พอมีประสบการณ์ด้านการลงทุนมาพอสมควรอยู่แล้ว แน่นอนว่าต้องเข้าใจและรู้จักทั้ง 2 ประเภทของการลงทุน แต่ถึงกระนั้นก็เชื่อว่าบางคนยังไม่รู้ความต้องการตนเองว่าเหมาะกับการลงทุนอสังหาฯ แบบใด ดังนั้นเพื่อให้เข้าใจแก่นแท้ของรูปแบบการลงทุนอสังหาฯ มากขึ้น จึงจำเป็นต้องศึกษาความแตกต่างดังต่อไปนี้

          1. การลงทุนอสังหาฯ ระยะสั้น (Flipping)

            คือ การซื้ออสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน - คอนโดในราคาต่ำกว่าตลาด ณ ขณะที่มีการเปิดให้ซื้อขาย จากนั้นมีการปรับปรุงหรือเพิ่มมูลค่าเพื่อเก็งกำไร ซึ่งในรูปแบบนี้เรียกว่าการซื้อมาขายไปนั่นเอง ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมของนักลงทุนเวลานี้ จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจากการขายใบจองคอนโด เป็นการขายในช่วงเวลาที่ยังไม่ถึงขั้นตอนการโอน แน่นอนว่าย่อมมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากนักลงทุนจำเป็นต้องรีบปล่อยอสังหาฯ ที่ถือครองในมือให้เร็วที่สุด ดังนั้นจึงทำให้ต้องเร่งรีบกับเวลาอย่างมาก ประกอบกับจำเป็นต้องอาศัยการสร้าง Connection ในวงการอสังหาฯ พอสมควร เพื่อสร้างกลุ่มฐานลูกค้าที่มีความต้องการหาบ้านหรือคอนโดจริงๆ จึงทำให้นักลงทุนหลายรายมักต้องเผชิญกับความเสี่ยงค่อนข้างสูง

          2. การลงทุนอสังหาฯ ระยะยาว (Holding)

            คือ การซื้ออสังหาฯ เพื่อเก็งกำไรในระยะเวลานาน แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ
            2.1 ซื้อเพื่อเก็งกำไร พร้อมปล่อยขายหลังโอนไปแล้ว ซึ่งจะทำให้ได้ Capital Gain ดี
            2.2 ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า สร้างรายได้ระยะยาว โดยจะคำนึงเรื่อง Rental Yield เป็นสำคัญ

          ส่วนใหญ่นิยมปล่อยขายบ้านหรือคอนโด เมื่อเวลาร่วงโรยไปมากกว่า 2 ปีขึ้นไป เนื่องจากมูลค่าของอสังหาฯ จากการประเมินราคามักมีการปรับตัวสูงขึ้นตามราคาที่ดินและความเจริญของพื้นที่ สำหรับรูปแบบของการลงทุนลักษณะนี้ จะเหมาะกับกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการ Passive Income เป็นประจำสม่ำเสมอทุกเดือน แม้ในช่วงระยะแรกอาจจะต้องเผชิญความกดดันในการปล่อยเช่า แต่ถ้าโครงการอสังหาฯ ที่นักลงทุนได้ซื้อมีทำเลตั้งอยู่ในเมือง แหล่งชุมชน แหล่งท่องเที่ยง หรือเป็นแหล่งงาน ซึ่งมีระดับความต้องการสูง ทำให้อัตราผลตอบแทน (Yield) นั้นอยู่ในระดับสูง แน่นอนว่านักลงทุนหายห่วงเรื่องการเก็งกำไร แต่ถ้าบางโครงการมี Yield Guarantee นั้นจะยิ่งเป็นการช่วยเพิ่มฐานความมั่นคงของผลตอบแทนนักลงทุน เหตุนี้จึงทำให้นักลงทุนไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงมากเหมือนกับการลงทุนอสังหาฯ ระยะสั้น

          ประโยชน์ที่ได้รับ จากการลงทุนอสังหาฯ ทั้ง 2 รูปแบบ

          แม้ว่าประโยคยอดฮิตอย่าง “การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง” จะติดอยู่ในหัวของการลงทุนอสังหาฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นชื่อว่าการลงทุนย่อมมีเรื่องของผลกำไรและประโยชน์ที่จะได้รับเกิดขึ้นกับนักลงทุนอย่างแน่นอน ดังนั้นเพื่อให้เข้าใจแก่นแท้ของการลงทุน จึงได้มีการรวบรวมประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงทุนอสังหาฯ ทั้ง 2 รูปแบบดังนี้

          การลงทุนอสังหาฯ ระยะสั้น

          การลงทุนอสังหาฯ ระยะยาว

          1. แม้ว่าการลงทุนระยะสั้นจะเป็นการลงทุนที่ต้องแข่งกับเวลา แต่ทำให้นักลงทุนมักยิ้มออกเมื่อปล่อยอสังหาฯ ได้ เนื่องจากได้เงินและกำไรเร็ว 1. การลงทุนอสังหาฯ ระยะยาว ทำให้นักลงทุนได้ Passive Income ที่มั่นคง
          2. นักลงทุนที่มีความชำนาญในการลงทุนระยะสั้น หรือเรียกง่ายๆ ว่ามีชั่วโมงบินสูง เมื่อประสบความสำเร็จจากการปล่อยอสังหาฯ หลายๆ รอบ ก็ถือได้ว่ามีกำไรเยอะกว่าการลงทุนระยะยาวเลยทีเดียว 2. มูลค่าอสังหาฯ จะถูกปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นทุกปี จึงทำให้นักลงทุนได้กำไรสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
          3. การลงทุนอสังหาฯ ระยะยาว นักลงทุนไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับเวลาเหมือนกับการลงทุนอสังหาฯ ระยะสั้น ทั้งนี้หากเก็บโครงการอสังหาฯ ไว้ไปนานๆ เมื่ออยากขายต่อ ก็ทำให้ได้กำไรเพิ่มขึ้นจากมูลค่าอสังหาฯ ที่ปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา 3. การลงทุนอสังหาฯ ระยะยาว นักลงทุนไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับเวลาเหมือนกับการลงทุนอสังหาฯ ระยะสั้น ทั้งนี้หากเก็บโครงการอสังหาฯ ไว้ไปนานๆ เมื่ออยากขายต่อ ก็ทำให้ได้กำไรเพิ่มขึ้นจากมูลค่าอสังหาฯ ที่ปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

          อย่างไรก็ตามการลงทุนอสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระยะสั้นหรือการลงทุนระยะยาว
          ควรมองทั้งความสามารถทางการเงินของตนเองและปัจจัยความเสี่ยงในตลาดเป็นสำคัญ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดผลกระทบต่อสภาพการซื้อ - ขายในตลาด จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาสภาพเศรษฐกิจในประเทศเกิดความสั่นคลอน สืบเนื่องจากสภาพตลาดอสังหาฯ กับเศรษฐกิจของประเทศ นั้นจำเป็นต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน